TRADITIONAL BRIX HONEY REFRACTOMETER 58-90% FOR Bee Keeping
ราคา 2,300
ผมอนันต์ โทร 086-8910596
CATEGORIES
We are dedicated to offer you a wide range of refractometers with the following 2 designed categories:
* Traditional version : Use screw driver for calibration
* Latest version : Twist directly on the built-in calibration knob for calibration
MODEL NUMBER : RHB-90ATC (This item belongs to Traditional Version)
ถ่ายภาพหน้าจอของจริงให้ดูครับ
BRIEF DESCRIPTION
RHB-90ATC is specially designed for determining 3 different scales of honey : Brix level
(58 - 90%), Baume Specific Gravity (38 - 43 Be') and Water Contents (12 - 27%).
This honey refractometer is useful to control the sugar concentrations of honey related
foods and beverages. Checking the ripeness of fruit in the field, verifying product
qualtity after harvesting or controlling concentrations during processing and packaging,
refractometers provides critical information to ensure quality of products.
FEATURES :
Sturdy and light weighted Aluminum body
High quality and accurate testing result
ATC Compensation Range (i.e. Built-in Automatic Temperature Compensation System)
from 10°C to 30°C
Easy and very convenient to use
SPECIFICATION
|
Range |
Min. Div. |
Accuracy |
---|---|---|---|
Brix |
58 - 90% |
0.5% |
± 0.5% |
Baume |
38 - 43 Be' |
0.5 Be' |
± 0.5 Be' |
Water |
12 - 27% |
1% |
± 1% |
* Automatic Temperature Compensation System (ATC)
* Traditional version : Using screw driver for calibration
* Sturdy and light weighted Aluminum body
* Item length : approx. 140 mm
* Item Weight : approx. 115g
* Rigid Imitation Leather Box with sponge padded for maximize protection
* 1pc pipette
ONE SET INCLUDED
- 1pc x Traditional Honey Refractometer
- 1pc pipette
- 1pc x instruction manual
- 1pc x mini screw driver
- Protective fabrics pouch with white box
คุณสมบัติการใช้งาน
เป็น Refractometer ชนิดที่ออกแบบมาเพื่อวัดความหวานของน้ำผึ้ง หรือสารละลายที่มี
ความหวานมาก ๆ วัดได้สามค่าคือ ระดับน้ำตาล(58-90%) ความถ่วงจำเพาะ(38-43)
และเปอร์เซ็นต์น้ำ(12-27%) มีระบบ ATC
เกร็ดความรู้เรื่องน้ำผึ้ง
น้ำผึ้ง คือน้ำหวานที่ผึ้งเก็บมาจากต่อมน้ำหวานของดอกไม้ (nectar) โดยผึ้ง
จะกลืนน้ำหวานลงสู่กระเพาะน้ำหวาน ซึ่งจะมีเอนไซม์ช่วยย่อยน้ำหวานแล้วนำมาเก็บไว้
ในหลอดรวงผึ้ง จากนั้นน้ำผึ้งค่อยๆ บ่มตัวเอง
โดยการระเหยน้ำออกไปจนน้ำผึ้งมีปริมาณน้ำตามที่เข้มข้นขึ้นจนได้ระดับที่เหมาะสม
กับการเก็บรักษาผึ้งงานก็จะปิดฝาหลอดรวง เราเรียกน้ำผึ้งนี้ว่า “น้ำผึ้งสุก” เป็นน้ำผึ้งที่ได้มาตรฐาน
คือมีน้ำอยู่ไม่เกิน 20-21 เปอร์เซ็นต์
ตามหลักการแพทย์แผนไทยแล้ว น้ำผึ้งมีประโยชน์มากมายก็จริง แต่สำหรับผู้ป่วยบางราย
แนะนำว่าไม่ควรกินน้ำผึ้งแบบเข้มข้นโดยไม่ผสมอะไรเลย เช่น คนที่ดีพิการ คือ
มีอาการตัวเหลืองตาเหลือง นอนสะดุ้งผวา สอง เสมหะพิการ คือมีเสมหะมาก
และมีภาวะโรคปอดแทรก สาม คนที่น้ำเหลืองเสีย มีฝีพุพอง ตุ่มหนอง หรือโรคครุฑราชต่างๆ
น้ำผึ้งมีคุณสมบัติทางยา คือ สามารถฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ต่างๆ ได้ เพราะน้ำผึ้งมี
ความเข้มข้นของน้ำตาลสูง ซึ่งความเข้มข้นนี้เองจะช่วยกำจัดปริมาณน้ำที่แบคทีเรียใช้
ในการเจริญเติบโต รวมถึงน้ำผึ้งมีความเป็นกรดสูง และมีปริมาณโปรตีนต่ำ ซึ่งทำให้แบททีเรียไม่
ได้รับไนโตรเจนที่จำเป็น นอกจากนี้น้ำผึ้งยังมีสารไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์
และสารแอนตี้ออกซิแดนด์ซึ่งจะมีคุณสมบัติช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียด้วย ดัง
นั้นเมื่อเราใช้น้ำผึ้งทาบาดแผลจึงสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้และทำให้แผลไม่เกิดการอักเสบ
ส่วนประกอบของน้ำผึ้ง
ส่วนประกอบโดยทั่วไปของน้ำผึ้งประกอบด้วย
Fructose: 38.5%
Glucose: 31.0%
Sucrose: 1.0%
Water: 17.0%
Other sugars: 9.0% (maltose, melezitose)
Ash: 0.17%
Other: 3.38%
โดยน้ำผึ้งมีความหนาแน่นอยู่ที่ประมาณ 1.36 กก./ลิตร(ความหนาแน่นมากกว่าน้ำ 36 %)
ท่านครับกระผมอยากให้ท่านดูที่สเกลของรีแฟคโตมิเตอร์รุ่นนี้อีกครั้งครับ
ว่าเราจะเห็นว่ามีทั้งสิ้น
3 สเกลถ้าหากโดยปกติเราจะดูเปอร์เซ็นต์ความหวานจะดูที่สเกลกลางครับ
มันจะบอกเราเป็นเปอร์เซ็นต์ความหวานเริ่มตั้งแต่ 58 - 90 เปอร์เซ็นต์
ส่วนสเกลด้านซ้ายมือสุดเป็นสเกลบอกความถ่วงจำเพาะของน้ำผึ้ง ครับ
บอกในหน่วยของ Baumé ซึ่งบอกได้ตั้งแต่ 38 - 43 ทั้งนี้แล้วน้ำกลั่นบริสุทธิ์
จะมีความถ่วงจำเพาะในหน่วยของ Baumé เท่ากับ 0 ครับ ฉะนั้นแล้ว สารละลายใด ๆ
ก็ตามแต่ที่มีความถ่วงจำเพาะในหน่วของ Baumé มากกว่า 0 แล้ว
หมายถึงว่าหนักกว่าน้ำกลั่นบริสุทธิ์ครับ ซึ่งน้ำผึ้งก็จะเป็นเช่นนั้นจริง ๆ
เพราะว่าถ้าเราเทน้ำผึ้งลงไปในน้ำกลั่นแล้ว น้ำผึ้งที่เทลงไปจะไปอยู่ที่ก้นถ้วยครับ
ส่วนสเกลทางด้านขวามือสุดนั้นน่าสนใจเช่นกันครับ
เพราะว่ามันเป็นความสามารถในการวัดเปอร์เซ็นต์ของน้ำที่อยู่ในน้ำผึ้งครับ
ตรงนี้สำคัญเพราะว่าปริมาณหรือเปอร์เซ็นต์ของน้ำนั้นมีผลอย่างยิ่งต่อคุณภาพของน้ำผึ้ง
และอาจจะเป็นอีกจุดหนึ่งในการพิจารณาถึงคุณภาพของน้ำผึ้งรวมทั้งราคาด้วย
ให้ดูที่ตารางด้านล่างนี้ครับว่าคุณภาพหรือ Grade ของน้ำผึ้งที่ดีควรจะเป็นอย่างไร
ยกตัวอย่างเช่น
% น้ำที่น้อยกว่า 18.6 จะหมายถึงคุณภาพที่ดีมาก ทั้งนี้ให้พิจารณาถึงสี กลิ่น รส
และองค์ประกอบอื่นด้วยตามตาราง
ทั้งนี้แล้วคุณภาพของน้ำผึ้งจะเริ่มลดลงเมื่อเปอร์เซ็นต์ของน้ำที่อยู่ในน้ำผึ้งมีมากขึ้น
และจะมีคุณภาพที่ต่ำมาก ๆ ที่เปอร์เซ็นต์ของน้ำมากกว่า 25 เปอร์เซ็นต์
และที่สำคัญแล้วเปอร์เซ็นต์ของน้ำที่มาก ๆ ในน้ำผึ้งจะทำให้อายุในการเก็บรักษาในระยะยาวสั้นลง
คือมีโอกาสเสียมากขึ้นถ้าไว้นาน
Grade | Water content | Flavor and aroma | Absence of defects | Clarity |
---|---|---|---|---|
A | < 18.6% | Good—has a good, normal flavor and aroma for the predominant floral source and is free from caramelization, smoke, fermentation, chemicals and other odor causes | Practically free—practically no defects that affect appearance or edibility | Clear—may contain air bubbles that do not materially affect the appearance; may contain a trace of pollen grains or other finely divided particles of suspended material that do not affect appearance |
B | > 18.6% and < 20.0% | Reasonably good—practically free from caramelization; free from smoke, fermentation, chemicals, and other causes | Reasonably free—do not materially affect appearance or edibility | Reasonably clear—may contain air bubbles, pollen grains, or other finely divided particles of suspended material that do not materially affect appearance |
C | < 20.0% | Fairly good—reasonably free from caramelization; free from smoke, fermentation, chemicals, and other causes | Fairly free—do not seriously affect the appearance or edibility | Fairly clear—may contain air bubbles, pollen grains, or other finely divided particles of suspended material that do not seriously affect appearance |
Substandard | > 20.0% | Fails Grade C | Fails Grade C | Fails Grade C |
ซึ่งถ้าหากว่าเรานำทั้ง 3 เสกลมาเทียบกันแล้วก็จะพบได้ว่า
มันแปรผันกันนั่นเอง หมายถึง
ถ้าหากว่าน้ำผึ้งมีความถ่วงจำเพาะมากเท่าใด
ก็จะมีความหวานมากขึ้นเท่านั้น
และถ้าหากว่ามีความหวานมากขึ้นเท่่าใด
ก็บ่งบอกถึงเปอร์เซ็นต์ของน้ำที่อยู่ในน้ำผึ้งมีน้อยลงด้วย
มาชมการใช้งานรีแฟคโตมิเตอร์รุ่นนี้โดยผู้เชี่ยวชาญสาธิตให้ชมครับ
https://www.youtube.com/watch?v=SI-tAnwGEus
ถ้าหากท่านกำลังหาวิธีพิสูจน์น้ำผึ้งว่าแท้หรือไ่ม่
ผมมีคลิปน่าสนใจให้ชมครับ
http://www.youtube.com/watch?v=AIROuMdWNxY
อันดับแรกคือถ้าหากท่านเทน้ำผึ้งอย่างช้า ๆ
ลงในน้ำมันไม่ควรจะกระจายออกไปเร็วเกินไป
อย่างเช่นถ้วยนี้น้ำผึ้งปลอมหรือผสมมาครับ
ที่ถูกต้องมันต้องลงไปนอนที่ก้นแก้ว โดยจับเป็นกลุ่มก้อนก่อนแล้วจึงค่อย ๆ
ละลาย
ถ้าหากนำมาเผาไฟแล้ว น้ำผึ้งแท้ ถึงแม้จะมีสถานะเป็นของเหลวหนืดก็ตามแต่
แต่ถ้าหากนำมาชุบด้วยสำลีให้ชุ่มแล้วลองนำมาเผามันจะติดไฟนะครับ
อันนี้ไม่แปลกอะไร เพราะว่าน้ำตาลกับไฟเป็นของคู่กันครับ ถ้าไม่ติดไฟเลย
น้ำผึ้งปลอมครับ ผมลองทำดูแล้วเป็นงั้นจริง ๆ
เวลาหยดน้ำผึ้งแท้ลงบนเล็บแล้ว มันควรจะยังค้างอยู่บนเล็บเป็นหยด
เพราะมันมีความหนืดในระดับที่จะไม่ไหลเร็วเกินไป
อันนี้ผมเข้าใจว่าน้ำผึ้งที่เขานำมาแสดงนี้เป็นน้ำผึ้งที่คุณภาพดีมาก ๆ
ทีเดียวมีความหนืดสูง ปริมาณเปอร์เซ็นต์น้ำในน้ำผึ้งมีน้อย
หรือไม่งั้นก็นำมาลองทาบนจาน มันควรจะลากเป็นเส้นได้ยาวพอควร
เพราะมันมีความหนืดในระดับหนึ่ง อย่างเช่นภาพนี้ทางซ้ายมือเป็นน้ำผึ้งแท้ครับ
เวลานำน้ำผึ้งแท้เทใส่จานแล้วเทน้ำลงไปแล้วนำมาแกว่งดู
จะเห็นเป็นเส้นร่างแหครับ แล้วมันจึงละลายต่อไปอย่างช้า ๆ จึงจะเป็นน้ำผึ้งแท้
ผมลองแกว่งดูแล้ว มันไม่เป็นเส้นสวยอย่างนี้ แต่ก็เห็นเป็นเส้น ถือว่าแท้ครับ
ชุดน้ำยาคาลิเบรตรีแฟคโตมิเตอร์วัดน้ำผึ้งรุ่นนี้( 650 บาท)
สำหรับรีแฟคโตมิเตอร์รุ่นนี้ที่มีช่วงการวัดระดับความหวาน
58 - 90 เปอร์เซ็นต์
ถ้าหากจะถามว่าจะมีน้ำยามาตรฐานตั้งค่าเริ่มต้นหรือไม่ันั้น
อันนี้ตอบว่ามีครับ
แต่ท่านที่มีรีแฟคโตมิเตอร์รุ่นนี้ที่ไม่มีน้ำยาคาลิเบรตก็ไม่ต้องกังวล
อะไรครับเพราะว่าผมลองสุ่มตรวจดูแล้วพบว่าทางผู้ผลิตได้ตั้งค่าเริ่มต้น
มาให้ตั้งแต่ออกจากโรงงานแล้วครับ ฉะนั้นจึงสามารถนำไปใช้ได้เลย
ชุดคาลิเบรตชุดนี้มีหลาย ๆ
ท่านที่ซื้อมาจากที่อื่นแล้วใช้งานไม่เป็นครับ
ลองสอบถามเข้าไปทางผู้จำหน่ายบางที่เขาก็ตอบไม่ได้เช่นกัน
เพราะว่าเขานำเข้ามาอย่างเดียว ไม่รู้วิธีการใช้งาน
ทำให้ซื้อไปแล้วคาลิเบรตกันไม่ได้ ไม่มีประโยชน์อะไร
ผมจึงขออธิบายวิธีใช้งานชุดคาลิเบรตชุดนี้ไปดังนี้ครับ
ด้านบนนี้คือวิธีใช้งานภาษาอังกฤษตามวิธีที่ถูกต้องที่ทางบริษัทผู้ผลิต
แนะนำมาครับ
ชุดน้ำยาคาลิเบรตชุดนี้ประกอบด้วยสองส่วนด้วยกันคือ
น้ำยาที่อยู่ในขวดเล็ก ๆ ซึ่งมีค่าเปอร์เซ็นต์ความหวานมาตรฐานตั้งไว้ที่
78.8% และบล็อกอ้างอิง(Reference Block) จำนวน 1 อัน
บล็อกอ้างอิง(Reference Block) อันนี้จะมีสองด้านครับ
คือด้านใสและด้านขุ่น(ตามภาพ)
บล็อกอ้างอิงอ้ันนี้ห้ามทำหายโดยเด็ดขาดครับ
เพราะมิเช่นนั้นแล้วจะทำให้ใช้งานชุดน้ำยาไม่ได้
วิธีใช้งานน้ำยาคือ
ให้นำหลอดหยดมาแล้วดูดน้ำยามาตรฐานขึ้นมาเพียงเล็กน้อยก็พอ
เพราะน้ำยามีน้อย
หลังจากนั้นให้นำไปหยดลงไปบนบล็อกมาตรฐานทางด้านใส
แล้วเกลี่ยให้ทั่ว ห้ามนำน้ำยาไปหยดลงไปยังด้านขุ่นโดยเด็ดขาด
เพราะจะผิดวิธีและทำให้วัดกันไม่ได้
นำบล็อกที่หยดน้ำยา(ด้านใส)
มาวางลงไปบนรีแฟคโตมิเตอร์ให้อยู่ในลักษณะกลาง ๆ(Center) เช่นนี้
โดยให้ด้านที่ถูกหยดน้ำยาแปะลงไปบนกระจกให้สนิท
โดยใช้มือกดเพียงเบา ๆ ส่วนด้านขุ่นของบล็อกอ้างอิงก็จะอยู่ข้างบน
แล้วส่องดู จะปิดหรือไม่ต้องปิดฝารีแฟคโตมิเตอร์ก็ได้ครับ
นำรีแฟคโตมิเตอร์ไปส่องดูกับแสงสว่าง
เมื่อท่านส่องดูแล้วที่ถูกต้องรีแฟคโตมิเตอร์จะต้องอ่านค่าได้ประมาณ
78.8% หากอ่านไม่ได้เท่านี้้ต้องปรับให้ได้ 78.8% จึงจะใช้ได้
แต่โดยทั่ว ๆ
ไปแล้วผมลองวัดดูแล้วถ้ารีแฟคโตมิเตอร์ที่ถูกส่งมาจากต่างประเทศ
จะตั้งไว้เท่านี้เสมอครับ
ฉะนั้นถ้าท่านไม่มีชุดน้ำยาคาลิเบรตก็ไม่ต้องกังวลอะไร
เพียงแต่ระวังอย่าไปหมุนสกรูปรับค่าก็เป็นอันใช้ได้
(ใช้งานไปตามปกติโดยไม่ไปปรับแต่อะไร)
น้ำยาในขวดนี่ต้องใช้อย่างระวังครับ ห้ามทำขวดหกเด็ดขาดครับ
เพราะน้ำยาที่ทางต่างประเทศให้มามีน้อยมาก ๆ ที่เห็นมีแค่ก้นขวด