เครื่องวัดค่าความหวาน Model RHB-10 ATC,
Optical Refractometer Model RHB-10ATC
0-10% Brix Refractometer with ATC
(Model : RHB-10ATC)
2,200 บาท ผมอนันต์ครับ Tel.0868910596
-
A refractometer is an optical instrument made of high quality aluminum is used to measure the concentration or refractive index of liquids. The RHB-10ATC, is specially designed to work with sugar-related liquids such as low sugar fruits and vegetables juices, Reamsian Bodily Fluids (per the Reams Biological Theory of Ionization), Maple Sap or for synthetic or semi-synthetic coolants, soft drinks and wine (for machining and grinding coolants, please consult the Technical Data Sheet for appropriate concentration of fluid). It can help the user monitor the specific percentage of sugar concentration in food and beverages, and is especially practical for people involved with food harvesting, processing and packaging.
This model is designed to give HIGHLY accurate readings with 0.10 Brix divisions (accuracy is +/- 0.10 Brix). This unit is TWICE as accurate as 0-32% models!All RHB models use ambient light which means battery or power source is not required. Models with the ATC suffix are equipped with Automatic Temperature Compensation for accurate measurements without recalibration after shifts in ambient working temperature (for field use). Against bright external light, the user looks through the eyepiece of the Brix Refractometer to see the reticle scale. The Brix Concentration (in percentage units) is the mark on the scale where the light and dark boundaries meet, with one to two drops of liquid specimen spread across the refractometer's prism glass surface.
With the Brix Refractometer RHB-10ATC, you can easily check the ripeness of fruits in the field, or test the concentration of sugar in food and beverages to ensure product quality. Definitely easy to use and calibrate, this accurate optical device has a durable, lightweight body with a comfortable eyepiece and non-slip rubber grip. It also comes with its own calibrating mini-screw driver and pipette as accessories.
Special Features
- Heavy-duty, lightweight aluminum construction
- Easy to focus and calibrate
- Accurate testing results guaranteed
- With ATC (Automatic Temperature Compensation) built in to correct temperature discrepancies during use
- Operations manual, protective carrying case, pipette and calibrating mini screw driver provided for user convenience
Specifications
- Measuring Range 0-10% Brix
- Minimum Division Div. 0.1% Brix
- Accuracy ±0.10%
- ATC Compensation Range: 10°C~30°C (50°F~86°F)
- Manual calibration with mini-screw driver provided
- Length 200 mm
- Weight 165g
Operating Operation:
- Aim the front end of the refractometer to the direction of bright light and adjust the eyepiece (manual focus adjustment) until the reticle scale can be clearly seen.
- Adjustment of null (also called calibration): Open the daylight plate. Place one or two drops of distilled water or R.O water on the prism. Close the daylight plate and press it lightly so the water spreads across the entire surface of the prism without air bubbles or dry spots. Allow the sample to remain on the prism for approximately 30 seconds. Then adjust the calibration screw to make the light and dark boundary coincide with the null line. Adjustment of refractometer should be made under the condition of 20°C (68°F) environmental temperature. When the working temperature of the room or environment (not the sample) changes by more than 5°F, recalibration of the refractometer is recommended to maintain accuracy. The refractometer should also be adjusted to null before storage.
- Open the daylight plate and clean the surface of the prism with soft cotton cloth. Drop 2-3 drops of solution to be measured. Close the daylight plate. Press it lightly so the water spreads across the entire surface of the prism without air bubbles or dry spots. Allow the specimen to remain on the prism for approximately 30 seconds, and then read the corresponding light/dark boundary. The reading is the Brix value of the measured solution.
- After measurement, clean away the measured solution on the surface of the prism and daylight plate with moist cotton cloth. After drying, it should be stored properly.
Maintenance:
- Recalibrate occasionally to ensure and maintain the testing accuracy.
- Adjustment of null: Liquid and specimen should be under the same temperature. If the temperature varies greatly, the null point should be adjusted once every 30 minutes.
- Do not use water to wash the refractometer after use to prevent moisture from entering the instrument.
- As it is a specialized precision optical instrument, the refractometer should be handled gently and taken good care of. Don't touch and scratch the optical surfaces. It should be kept in a dry environment with clean and non-corrosive air, to prevent the surface from turning moldy and foggy. Please use the protective carrying case to avoid strong shocks during transportation.
- If the consumers use the instrument in accordance with the method of usage specified, it can be guaranteed that the instrument will be operational for quite a period of time, with its optical performance unchanged.
การเลือกช่วงความหวานหรือความเข้มข้นของสารละลายที่ต้องการจะวัดเป็นสิ่งสำคัญครับ
สำหรับรีแฟคโตมิเตอร์วัดความหวานก็เช่นเดียวกัน เช่นถ้าท่านทราบอยู่แล้วว่าสารละลาย
ที่ท่านต้องการวัดนั้นมีความหวานไม่เกินกว่า 10 เปอร์เซ็นต์แน่นอน แต่มีรีแฟคโตมิเตอร์วัด
ความหวานให้ท่านเลือกสองรุ่นคือรุ่นที่วัดความหวานได้มากที่สุด 32 เปอร์เซ็นต์ และอีกรุ่น
วัดความหวานได้มากที่สุด 10 เปอร์เซ็นต์ โดยมีจุดเริ่มต้นค่าการวัดเท่ากันคือเริ่มต้นที่ 0
เปอร์เซ็นต์ ถามว่าท่านควรจะเลือกรุ่นไหนจึงจะใช้ได้หรือเหมาะสมที่สุด คำตอบคือ ถ้าท่าน
ต้องการจะใช้ใช้ได้ทั้งสองรุ่นครับ แต่ถ้าจะให้เหมาะสมที่สุดท่านควรจะเลือกเครื่องที่วัดค่า
ความหวานได้สูงสุด 10 เปอร์เซ็นต์จะดีกว่า
(ถ่ายภาพหน้าจอของจริง)
เหตุผลคือ สเกล ครับ ถ้าท่านสังเกตุดูสเกลที่ผมนำมาเปรียบเทียบกันจะเห็นได้ชัดเจน
ว่า ถ้าความหวานของสารละลายที่ท่านนำมาวัดไม่ถึง 10 เปอร์เซ็นต์(ผมลองสมมติว่าอยู่
ที่ 2-3 เปอร์เซ็นต์ ก็แล้วกัน) แล้วท่านนำรีแฟคโตมิเตอร์ที่วัดความหวานได้สูดสุด 32
เปอร์เซ็นต์มาวัดค่าที่อ่านได้จะขยับขึ้นมาน้อยมากจนท่านต้องเพ่งเพื่อให้เห็นค่าที่ชัดเจน
จากขีดที่ไม่มีตัวเลขบอก แต่ถ้าท่านนำรีแฟคโตมิเตอร์รุ่นที่วัดความหวานได้สูงสุด 10
เปอร์เซ็นต์มาใช้แล้วท่านจะพบว่าท่านจะอ่านค่าได้ง่ายมาก ๆ และเห็นได้ชัดเจนมากกว่า
เพราะมีตัวเลขระบุทุกช่วงความหวาน สเกลที่อ่านเมื่อส่องกับแสงไฟจะขึ้นมาชัด ๆ จนยาก
ที่ท่านจะอ่านผิดได้ ซึ่งถ้าท่านใช้สเกล 32 เปอร์เซ็นต์แล้ว เปอร์เซ็นต์ความหวานของสาร
ละลายน้อยมาก ๆ เป็นไปได้ที่จะอ่านผิดกันได้ เพราะขีดสเกลขึ้นมาน้อยมาก ๆ จนสังเกตุ
ค่อนข้างยาก ซึ่งถ้างานที่ท่านทำมีความละเอียดอ่อนด้วยแล้ว ความผิดพลาดเพียงแค่ 1 -
2 เปอร์เซ็นต์ก็มีผลต่อผลิตภัณฑ์ของท่านได้ครับ
ผมมีคลิปอยู่คลิปหนึ่งที่ดูแล้วมีความน่าสนใจอยู่เหมือนกันครับ อยากฝากให้ท่านชม
ท่านชมก่อนแล้ว ผมขยายต่อครับ
รีแฟคโตมิเตอร์นั้นมีหลายลักษณะครับ
สำหรับรีแฟคโตมิเตอร์ที่วัดหรือสามารถอ่านค่าออกมาเป็นตัวเลขได้เลย
ในภาษาอังกฤษจะเรียกว่า Digital Refractometer หรือรีแฟคโตมิเตอร์แบบดิจิตอล
แต่สำหรับรีแฟคโตมิเตอร์รุ่นที่กระผมนำมาเสนอนี้เป็นลักษณะคล้าย ๆ
กับกล้องส่องทางไกลขนาดเล็กตาเดียว อันนี้ในภาษาอังกฤษจะเรียกว่า Optical
Refractometer หรือรีแฟคโตมิเตอร์แบบส่องตา(Optic)
คลิปที่ท่านชมด้านบนนี้น่าสนใจตรงที่ ฝรั่งคนที่นำเสนอนี้เขากล่าวว่า
วิธีการวัดค่าความหวานของผลิตภัณฑ์จากพืชผักผลไม้
นั้นจะเป็นอีกวิธีหนึ่งในการตัดสินใจที่จะเก็บเกี่ยว
เพราะว่าการเก็บเกี่ยวโดยที่ผลิตภัณฑ์ของท่านยังมีคุณภาพไม่ดีพอจะมีผลต่อราคาได้
หรือถ้าท่านทราบว่าผลิตภัณฑ์ของท่านมีุคุณภาพที่ด้อยลง
ท่านก็ควรจะปรับปรุงให้ได้คุณภาพมาตรฐานที่ดีเสียก่อน
มิเช่นนั้นแล้วอาจจะมีผลต่อราคาจำหน่ายได้
ในคลิปนี้น่าสนใจที่ว่าเขามีวิธีตรวจวัดคุณภาพของผลิตภัณฑ์ของเขาโดยการใช้การวัด
ค่าระดับความหวาน โดยใช้อุปกรณ์อย่างง่าย ๆ คือใช้เพียงแค่ ครก-สาก
(ซึ่งผมเองไม่แน่ใจว่าครกชุดนี้จะสั่งมาจากประเทศไทยหรือเปล่า)
และใช้รีแฟคโตมิเตอร์ครับ โดยจะเป็นแบบดิจิตอลหรือออฟติคอลก็ได้
โดยปกติแล้วฝรั่งเวลาเขาจะบดอาหาร เขามักจะนึกถึงเครื่องปั่นเสียมากกว่าครับ
ไม่ค่อยจะเห็นเขาใช้วิธีอื่น แต่ท่านเชื่อไหมครับ
ว่าการปั่นกับการบดตำนั้นเป็นการย่อยอาหารคนละวิธีกันครับ
การปั่นคือการตัดโดยทำให้อาหารชิ้นใหญ่กลายเป็นชิ้นเล็ก ๆ ย่อย ๆ
ในขณะที่การบดหรือการตำจะเป็นการบีบทุกโมเลกุลของอาหารให้กลายเป็นเนื้อเดียวกัน
โดยจะเป็นการรีดของเหลวที่อยู่ในโมเลกุลของอาหารออกมาอีกด้วย ฉะันั้นแล้ว
ถ้าจะให้ของเหลวในโมเลกุลของอาหารถูกบีบออกมาทุกโมเลกุลแล้ว
เพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีในการตรวจวัดค่า การตำให้แหลกละเอียดจะดีกว่าการปั่น
ในคลิปเขานำแครอทแดงมาหั่นครึ่งด้วยมีดแล้วหั่นเป็นท่อน ๆ
แล้วนำมาใส่ครกตำให้ละเอียดที่สุด
ซึ่งก็จะได้แครอทที่แหลกละเอียดและน้ำที่อยู่ในแครอทออกมาในเนื้อที่แหลกละเอียดนี้ด้วย
จากนั้นเขานำแครอทที่ตำได้นี้มาใส่ในตะแกรง(ถ้าเป็นบ้านเราอาจจะใช้ผ้าขาวบางก็ได้)
แล้วบีบเอาน้ำแครอทออกมา เพื่อทำการตรวจวัดระดับความหวานของแครอทที่ได้นี้
ฝรั่งเขาละเอียดครับ เพราะประเทศเขาจะมีตารางเปรียบเทียบเลยว่า
ผลิตภัณฑ์จากพืชผักที่มีคุณภาพแล้วควรจะมีระดับน้ำตาลอยู่ในระดับกี่เปอร์เซ็นต์
ซึ่งถ้าเข้าใจไม่ผิดแล้ว ราคาที่จำหน่ายก็อาจจะขึ้นกับคุณภาพของผลิตภัณฑ์ของเขาด้วย
ซึ่งตรงนี้ผมไม่แน่ใจว่าในประเทศไทยมีตารางเปรียบเทียบกับผลิตผลทางการเกษตรใน
ลักษณะนี้หรือไม่ ถ้ามีแล้ว การตรวจวัดระดับความหวานก็จะเป็นสิ่งจำเป็นมากครับ
เพราะการจะไปชิมโดยใช้ลิ้นก็ดูจะขาดความน่าเชื่อถือ
และประสาทการรับรสของแต่ละบุคคลก็จะไม่เท่ากันอีกด้วย
บทประยุกต์ของรีแฟคโตมิเตอร์วัดความหวาน RHB-10ATC รุ่นนี้
ท่านครับผมมีคลิปอยู่คลิปหนึ่งอยากให้ท่านชมครับ
ก็คือว่ารีแฟคโตมิเตอร์รุ่นนี้สามารถนำไปประยุกต์เพื่อใช้วัดค่าความเข้มข้นของ
น้ำยาหล่อเย็นได้ด้วย โดยวัดออกมาเป็นเปอร์เซ็นต์เลย
ในคลิปนี้ฝรั่งเขาใช้วัดน้ำหล่อเย็นในเครื่อง CNC
ครับว่าอยู่ในระดับที่เหมาะสมแล้วหรือไม่
ซึ่งในที่นี้เขาลองนำน้ำหล่อเย็นมาวัดด้วยรีแฟคโตมิเตอร์รุ่นนี้แล้วสามารถวัดได้
ที่ประมาณ 9 เปอร์เซ็นต์
ฝรั่งคนนี้เขาอธิบายว่าเขาพยายามจะควบคุมความเข้มข้นของน้ำยาหล่อเย็นของ
เขาให้อยู่ระหว่าง 7 - 10 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเขาพึงพอใจกับผลที่วัดได้
ซึ่งโดยความเป็นจริงแล้ว
รีแฟคโตมิเตอร์ที่ออกแบบมาเพื่อใช้วัดน้ำยาหล่อเย็นโดยเฉพาะจะมีครับ
ผมมีจำหน่ายด้วย ซึ่งมันจะเป็นรุ่นนี้ครับ
ซึ่งบางครั้งผมก็ถูกลูกค้าถามเรื่องนี้บ่อยเหมือนกันว่า
ทำไมรีแฟคโตมิเตอร์บางอันที่ใช้วัดน้ำยาหล่อเย็น
สามารถวัดเป็นเปอร์เซ็นต์ได้เลย และวัดได้ในช่วงที่ต่ำด้วย ตรงนี้ตอนแรก ๆ
ก็สงสัยกับคำถามนี้เช่นกัน
แต่เมื่อมาดูคลิปแล้วจึงได้ข้อสรุปว่ามันสามารถจะใช้ทดแทนกันได้ครับ