เครื่องวัดความเร็วลม Model AM-4836C

(Anemometer Air Flow Wind Speed Meter Cup Direction Probe°C °F Beaufort)

9,000 บาท ผมอนันต์ครับ Tel.0868910596 

     This professional anemometer (AM-4836C) works with a 3-cup

velocity probe and directional probe for collecting various data

with high accuracy. The useful device can determine and memorize

24 groups of following data: air velocity,air flow, Beaufort Scale, 

Wind Direction, Wave Height and Air Temperature.

Features reviews.

Wide applications for professionals covering: 

a. Data collection for boiler 

b. Refrigeration industry 

c. Ventilation duct 

d. Navigation measurement 

e. Weather forecast 

f. Collection of weather datum for outdoor busywork and fire department

Specification

A.    General Specifications

• LCD display : 4 digits, 0.5" (13mm) LCD

• Measurement units

• 
  a. Air Velocity: m/s, km/h, ft/min, knots
• b. Air Flow: CMM (m3 / min) ; CFM (ft3 / min)
  c. Beaufort Scale: Force
  d. Wave Height: m
  e. Direction : ° from the North direction
  f. Temp: °C and °F

• Data hold : Maximum value

• Can memorize 24 groups of obtained data and be able to recall from the meter at anytime.

• Sampling rate: reading per second approx.

• Air velocity / flow sensor : 3-cup probe

• Direction probe : Low friction probe

• Temperature sensor : Precision thermistor

• Automatic power off : 0 - 9 minutes set by users

• Operating Temperature : 0 °C to 50 °C (32 °F to 122 °F)

• Operating Humidity: Max. 80% RH

• Power Supply : 4 x 1.5 AAA size Batteries (included)

• Item weight : 260g (after inserting batteries and including probe)

• Dimensions of main unit : 156 x 67 x 28 mm (6.14' x 2.64 x 1.1' inch)

• Dimensions of Velocity sensor : 65 x 65 x 115 mm (2.56 x 2.56 x 4.53' inch)

• Dimensions of Direction sensor : 86 x 69 x 115 mm (3.39 x 2.72 x 4.53' inch)

  B.  Range Specifications 

One Set Included

• 1pc x 3-cup Thermo-Anemometer (main unit)

• 1pc x 3-cup Velocity Probe

• 1pc x Direction Probe

• 4pcs x AAA 1.5V batteries

• 1 x instruction booklet

• Standard factory package

หากท่านต้องการอ่านคู่มือการใช้งานก่อนครับ

    สำหรับเครื่องวัดความเร็วลมรุ่นนี้สามารถวัดความเร็วของลมได้อย่างหลากหลาย

หลายค่าเลยทีเดียวเรียกได้ว่าวัดได้ครบทุกค่าเลยก็ว่าได้ เช่น

วัดความเร็วลมธรรมดาทั่วไป(ตามหน่วยสากลที่กำหนด) วัดอุณหภูมิของลม,

วัดค่าปริมาตรของลมที่พัดผ่าน, วัดค่าความสูงของลูกคลื่นลม,

วัดค่าระดับความรุนแรงของลม หรือภาษาอังกฤษเรียกว่า Beaufort Scale

ไม่เพียงเท่านั้นเครื่องนี้ยังวัดทิศทางการเคลื่อนที่ของลมได้ด้วยครับ

เพราะมันมีหางเสือวัดพร้อมทั้งมีเข็มทิศบอกทิศทางการเคลื่อนที่ของลมว่ามาจา

กทิศทางไหน(เป็นโพรบวัดที่แยกออกมาจากโพรบวัดความเร็วลมครับ)

       ท่านครับ ถ้าเป็นในเรื่องของความเร็วลม กระผมขอขยายเป็นบางจุดครับ

เพราะถูกสอบถามมากพอควร และคิดว่าเป็นจุดที่มีประโยชน์มาก ๆ เลยครับ

สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยทราบมาก่อน

บางท่านซื้อเครื่องวัดความเร็วลมที่มีฟังก์ชั่นการใช้งานครบถ้วนทุกอย่างเลยครั

บ แต่กลับไปตรวจวัดเพียงแค่บางค่าที่ต้องการทราบเช่น

วัดแค่ความเร็วลมกับอุณหภูมิ

ซึ่งผมมองว่าไม่ค่อยจะคุ้มค่ากับการใช้งานเครื่องที่มีราคาแพง

หรือว่าบางท่านไปซื้อเครื่องวัดความเร็วลมราคาถูก ๆ

แต่ต้องการจะทราบค่ามาก ๆ แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าควรจะแปลงค่ากันอย่างไรดี

มาดูวิธีใช้เครื่องวัดความเร็วลมให้คุ้มค่าที่สุดกันครับ

       ให้ท่านดูชาร์ตด้านล่างครับ

ชาร์ตที่ท่านเห็นนี้อยู่ในคู่มือเครื่องวัดความเ็ร็วลมรุ่นนี้ครับ

แต่ถ้าหากท่านไม่มีไม่เป็นไรครับ จดไปเลย มันมีประโยชน์อย่างไรครับ

ให้ท่านจุดที่แถวแรกแนวนอนพอครับ ความหมายก็คือ

ถ้าหากว่าท่านวัดความเร็วลมได้ 1

เมตร/วินาทีแล้ว ท่านจะสามารถแปลงเป็นหน่วยอื่นได้เ่ท่าไรบ้าง

       ยกตัวอย่างเช่น ถ้าหากว่าท่านวัดความเร็วลมได้ 3 เมตร/วินาทีแล้ว

ท่านจะทราบได้อย่างไรว่าความเร็วนี้เป็นกี่กิโลเมตรต่อชั่วโมง

อันนี้ให้ท่านมองไปที่ชาร์ตด้านล่างแล้วคูณ 3.6 ด้วย 3 ได้เลยครับเป็นต้น

เครื่องวัดความเร็วลมบางรุ่นมีหน่วยในการวัดอาจจะไม่ครบถ้วนครับ

ท่านต้องแปลงค่าถ้าหากท่านต้องการทราบค่าในหน่วยอื่น

เพราะฉะนั้นชาร์ตนี้มีประโยชน์ครับ

   อย่างที่สองที่ท่านควรจะทราบครับ

ถ้าหากว่าท่านมีเจตนาที่จะใช้ประโยชน์จากลม เช่น

ท่านกำลังจะติดตั้งกังหันลมเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า

หรือท่านจะเดินเครื่องระบบระบายอากาศในโรงงานอุตสาหกรรมของท่าน

ท่านจำเป็นต้องทราบ ปริมาตรของลมที่พัดผ่านในบริเวณนั้นครับ

หรือภาษาอังกฤษเรียกว่า Air Flow โดยปกติปริมาตรของลมจะวัดกันมีหน่วยอยู่

2 หน่วยคือ : CMM (m3 / min หรือลูกบาศก์เมตรต่อนาที) ; CFM (ft3 / min

หรือลูกบาร์ศฟุตต่อนาที)

ค่านี้ยิ่งมากยิ่งดีครับถ้าหากท่านจะติดตั้งกังหันลมเพื่อใช้ประโยชน์จากพลังงาน

ลม เครื่องวัดค่าความเร็วลมที่มีมาตรฐานควรจะวัดค่านี้ได้นะครับ 

     หรือถ้าหากว่าเครื่องของท่านวัดไม่ได้ ให้ดูการคำนวนจากด้านล่างนี่ครับ

ความหมายคือให้นำพื้นที่หน้าตัด คูณด้วยความเร็วลมที่วัดได้

ยกตัวอย่างเช่นพื้นที่ พื้นที่หนึ่งเช่น

ท่อลมท่อหนึ่งท่านวัดความเร็วลมอย่างสม่ำเสมอทั่วทุกจุดของท่อได้ 10

เมตรต่อวินาที พื้นที่นั้นมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 0.5 เมตร

เท่านี้ท่านก็คำนวนได้แล้วครับ ว่า Flow ในท่อจะเป็นเท่าไร มันก็คือ 3.1416 x

0.5 x 0.5 x 10 ได้ค่าเท่าไรก็คือคำตอบ พูดง่าย ๆ Flow

คือความหนาแน่นของลมนั่นเองครับ

ฺ      สุดท้ายที่ท่านควรจะทราบคือ ความรุนแรงของลม และความสูงของลูกคลื่น(

ลม) ภาษาอังกฤษเรียกว่าค่า Beaufort scale และ wind wave height 

          ให้ท่านพิจารณาชาร์ตด้านล่างครับ

    ฝรั่งแบ่งระดับความรุนแรงของลมออกเป็น 13 ระดับสากลครับ เริ่มจาก 0 -

12  ค่า 0 คืออ่อนสุด ส่วนตัวเลข 12

คือรุนแรงที่สุดอันนี้หมายถึงลมที่เกิดจากธรรมชาตินะครับ

ไม่ใช่ลมที่มนุษย์สร้างขึ้นมา ค่า 0 - 12 นี้เรียกว่าค่า Beaufort ครับ

จากชาร์ตด้านล่างจะพบว่า ที่ค่า Beaufort เท่ากับ 0 นั่นหมายถึงลมสงบมาก

แต่ถ้ามีค่าเป็น 12 จะเป็นระดับพายุเฮอริเคนเลยครับ คือมันรุนแรงมาก

     ถ้าหากว่าท่านพิจารณาจากชาร์ตด้านล่างนี้ไปเรื่อย ๆ ท่านจะพบว่าที่ค่า

Beaufort มากเท่าไร ความสูงของลูกคลื่นลมก็จะมากขึ้นไปด้วยครับ 

ความสูงของลูกคลื่นลมหมายถึงค่าสูงสุดของสันคลื่นกับค่าต่ำสุดของท้องคลื่นค

รับ ค่าความสูงของลูกคลื่นลม มีผลต่อการใช้ประโยชน์จากลม

เช่นเดียวกันกับค่าปริมาตรลม

        ในเมืองไทยอาจจะเห็นไม่ชัดเพราะความสูงของลูกคลื่นลมส่วนใหญ่ไม่ค่อยเท่าไ

รกันครับ

แต่บางประเทศในยุโรปหรือทวีปออสเตรเลียแล้วความสูงของลูกคลื่นลมสูงมาก

ทีเดียว มากพอที่จะติดตั้งกังหันผลิตกระแสไฟฟ้าจากลม ใบใหญ่ ๆ

ระหว่างตึกสองตึกได้เลย

ซึ่งการติดตั้งกังหันระดับนี้ถ้าหากถึงแม้ว่าความเร็วลมจะได้ระดับ

แต่ความสูงของลูกคลื่นลมมีไม่มาก กังหันก็อาจจะไม่หมุนได้ครับ

มันจะต้องได้ทั้งสองอย่างคือต้องได้ทั้งความสูงของคลื่นที่ได้ระดับ

และความเร็วลมที่มีมาก และพัดอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปีด้วย

การผลิตกระแสไฟฟ้าจึงจะต่อเนื่องได้